3:05:18 เวลาเข้าเส้นชัยมาราธอน ... ของคนอายุ 60



เก็บตก Boston Marathon 2019


ในระหว่างช่วงหยุดสงกรานต์ผมได้อ่านข่าวที่พูดถึง Joan Benoit Samuelsons (ขออนุญาตเรียกคุณป้านะครับ) ที่กลับมาวิ่งที่ Boston Marathon อีกครั้งหลังจากที่เคยเป็นแชมป์เมื่อ 40 ปีที่แล้ว โดยในตอนนั้นแกมีอายุเพียงแค่ 21 ปี (เป็นการแข่ง Marathon แรกของแกด้วยนะครับ) โดยคุณป้าตั้งเป้าไว้ว่าจะวิ่งไม่ให้ช้ากว่าเวลาเดิมเกิน 40 นาที

เวลาที่คุณป้าเคยทำไว้เมื่อ 40 ปีที่แล้วคือ 2:35:15 ซึ่งถ้าเอาตามที่คุณป้าตั้งไว้ เวลาที่ควรจะทำได้คือ 3:15:15 ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่เร็วมากสำหรับคนอายุ 60

ปรากฏว่าแกซัดไปที่ 3:05:18 เร็วกว่าเวลาที่แกตั้งเป้าไว้ถึง 10 นาที

โดยคุณป้าได้ขอบคุณกองเชียร์ตามข้างทางที่ส่งเสียงให้กำลังใจมาตลอดเส้นทางว่า

“มันไม่น่าเชื่อจริงๆ ต้องขอบคุณกองเชียร์ทุกคนที่ไม่ยอมให้ฉันยอมแพ้”

หลังเสร็จสิ้นการแข่งแล้ว คุณป้าได้ให้สัมภาษณ์ว่า แกเริ่มออกวิ่งช่วงแรกด้วยความเร็วมากกว่าที่ควรจะเป็น และแกต้องพยายามเตือนตัวเองว่าให้อดทนไว้ เพื่อให้วิ่งให้จบตามแผน ซึ่งคุณป้าก็เริ่มมีอาการเจ็บน่องตอนถึง Newton Lower Falls (ประมาณไมล์ที่ 16-17) เป็นช่วงที่แกเตรียมจะเร่งเครื่องพอดี แต่จากประสบการณ์ที่แกเคยวิ่งมาก่อน แกเลยไม่อยากเสี่ยงที่จะเร่งมากจนอาจจะบาดเจ็บได้ เลยประคองตัวในช่วงนี้แล้วค่อยเร่งเครื่องหลังจากผ่านช่วงนี้ไปแล้ว

คุณป้าได้กล่าวปิดท้ายว่า
“ทุกคนที่วิ่งหรือเชียร์อยู่ที่ข้างสนามก็จะมีเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจต่างๆกัน และทุกๆคนก็สามารถที่จะเป็นผู้ที่เล่าและแบ่งปันเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจออกไปให้กับคนอื่นๆได้ต่อไป”

สำหรับผมพอได้อ่านเรื่องนี้ก็คิดว่ายังไงไม่มีใครแก่เกินจะวิ่งครับ ทุกคนมีมาราธอนเป็นของตัวเอง ผมยังคิดว่าถ้ามีโอกาสอยากจะเข้าไปวิ่งที่ Boston Marathon ซักครั้ง ซึ่งอาจจะต้องรอถึงอายุซัก 65 ฮ่าๆ (BQ Time ณ ปี 2019 อยู่ที่ 4:10:00) และหวังว่าเพื่อนๆคงได้แรงบันดาลใจจากคุณป้า Joan Beniot Samuelsons ไม่มากก็น้อยนะครับ

Credit: http://bit.ly/2PoTsug

Photo: Janet Knott / The Boston Globe, Staff photo By Nicolaus Czarnecki/MediaNews Group/Boston Herald)

#เพราะการวิ่งคือการพักผ่อน
#พ่อบ้านรันเนอร์

Facebook : www.facebook.com/PorBaanRunner/
IG : daddyrunning

Comments

Post a Comment

Popular posts from this blog

รู้ได้อย่างไรว่าเรามีพื้นฐาน(Endurance Base)ในการวิ่งติดตัวแล้ว?

Image
เป็นคำถามที่คนที่ซ้อมคุมหัวใจโซน 2 มักอยากจะรู้ว่าร่างกายเรามีความทนทานด้านพื้นฐาน (Endurance Base Training: EBT) เมื่อไหร่   ผมมีตารางวิ่งทดสอบ ตั้งค่านาฬิกาในโหมด interval ใช้เวลา Time เป็นตัวกำหนดรอบทั้งหมดทั้งช่วงวิ่ง Run และพัก Rest ตาราง วิ่ง 4 นาที พัก 3 นาที 6 รอบ โดย   ช่วงวิ่ง Run ให้แช่หัวใจโซน 4.5 หรือ 85% ของ maxhr 4 นาที ช่วงพัก Rest  3 นาที จะเดิน จ๊อก หรือหยุดเดินก็ได้ ให้ดูว่าค่าหัวใจลงมาถึง โซน 2.5 หรือ 65% ของ maxhr ผลประเมินถ้าลงถึง โซน 2.5 ถึง 4 รอบ แสดงว่าเริ่มมี Base ติดตัวมาบ้าง   ถ้าไม่ถึงหรือบางคนหัวใจค้างช่วงพักไม่ลง ต้องซ้อมให้ร่างกายเรียนรู้การใช้ไขมันอีกครับ   ตัวอย่าง Maxhr 189  วิ่ง 1 กิโลเมตร jog 200 เมตร ( หรือ 3 นาที ) วิ่งด้วยโซนหัวใจ 4.5 ทั้งหมด 5 รอบ ช่วงพักค่าหัวใจ รอบ 1 63% รอบ 2 63% รอบ 3 62% รอบ 4 64% รอบ 5 กด lap ผิด เมื่อซ้อมให้ร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานได้ดี เวลาช่วงที่พัก ร่ายกายก็จะพยายามจับไขมันเป็นพลังงาน หั...
Read more

ทำไมถึงต้องวิ่งเท้าเปล่า?

Image
 วิ่งเท้าเปล่ามันดียังไง ต้องบอกก่อนนะ วิธีวิ่งเท้าเปล่าเป็นความหลงไหลส่วนตัว ไม่ได้บอกว่าการถอดรองเท้าวิ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด อยากจะแชร์ในมุมที่ผมชอบและฝึก สามารถเอาไปประยุกต์ได้กับการใส่รองเท้าวิ่งปกติต่อไปได้ ผมก็ใส่รองเท้าวิ่งปกติเหมือนทุกคน เมื่อ 8ปีที่แล้ว ไปซ้อมสวนลุม เห็นคนนึงวิ่งอยู่บนเส้นถนน ชิดขอบทางเท้า และไม่ใส่รองเท้า คิดว่าไม่มีเงินซื้อรองเท้า แต่ใส่เสื้อไนกี้ ใส่นาฬิกาวิ่ง คงไม่ใช่แน่ ก็คิดว่า “บ้าหรือเปล่า” ผ่านมาหลายปี เริ่มจริงจังกับการวิ่งเยอะ เหงื่อเยอะ วิ่งจบเหมือนตกนำ้ รองเท้าไม่ต้องพูด เปียกเหมือนเดินลุยนำ้ท่วม คิดหารองเท้าใหม่ที่ระบายเหงื่อ ไม่ต้องใส่ถุงเท้า กลายเป็นได้รองเท้าที่พื้นไม่มีซับพอร์ตระบายเหงื่อได้ดีมาใส่ วิ่งไป เฮ้ย ฟิลลิ่งแบบนี้มันใช่ ลงเท้าพื้น แน่นๆ เค้าเรียก Minimalist และก็หาร้องเท้าที่คนนิยมกัน คือ VFF (Vibram Five Fingers) รองเท้าเสมือนเท้าเปล่า ก่อนจะมาวิ่ง ต้องหาความรู้ การวิ่งแนวนี้ต้องเปลี่ยนวิธีการวิ่งใหม่หมด แต่ที่ชอบคือการสร้างกล้ามเนื้อขาที่แข๊งแรงขึ้น จากการไม่มีซัพพอร์ต ทำให้กล้ามเนื้อที่เท้า ได้ใช้มากแข๊งแรงขึ้น ถ้าถอ...
Read more

เอ๊ะ! ฝึกรอบขาสูง หัวใจเต้นช้าๆยังไงนะ

Image
ASICS METARIDE ผมได้เขียนถึงการเริ่มซ้อมวิ่งหัวใจโซน 2 ให้ร่างกายหัดใช้ไขมันให้เป็น เมื่อเริ่มคุมหัวใจได้นิ่ง ร่างกายจำได้ สิ่งที่ต้องซ้อมให้ร่างกายจำเพื่อพัฒนาการวิ่งคือ รอบขา (Cadence)  รอบขา (Cadence)   คือ จำนวนก้าวต่อนาที นาฬิกาวิ่งสามารถวัดรอบขาจากการแกว่งแขน รวมถึงระยะก้าว (Stride Length) แขนจะแกว่งสลับด้านกับขาที่วิ่ง รอบขาธรรมชาติแต่ละคนไม่เท่ากัน ผมหมายถึงการวิ่งที่ทำให้ทุกๆคนวิ่งแล้วรู้สึกสบาย ระยะก้าวกว้างสั้นของแต่ละคนไม่เท่ากัน   ถามว่าแล้วรอบขาเกี่ยวข้องกับหัวใจโซน 2 ยังไง? เมื่อวิ่งเร็ว จะต้องก้าวเท้าเร็วๆ รอบขาจะเพิ่ม เพื่อทำความเร็ว   ส่งผลให้อัตราหัวใจเต้นสูงตามด้วยเป็นเรื่องปกติ   การฝึกให้ร่างกายวิ่งหัวใจโซน 2 รอบขาสูง มันเป็นสิ่งที่ขัดกัน จะวิ่งยังไง ต้องซอยขายิกๆ หัวใจก็ขึ้นอยู่ดี  ถ้า เปลี่ยนจากการซอยขา เป็นใช้รอบขาวิ่งแทน  จะดีกว่าไหม ปกติกล้ามเนื้อเรามีหลายมัด ส่วนใหญ่วิ่งจะใช้มัดใหญ่วิ่งเช่นต้นขา ให้เปลี่ยนมาใช้มัดเล็กช่วงขาแทน โดยการก้าวสั้นๆ แตะ ยก วาง ใช้แรงโน้มถ่วงดึงตัว...
Read more