42.195 กิโลเมตร !!!

42.195 กิโลเมตร !!! 

"อยากให้คนหนุ่มสาวได้ลองผ่านมาราธอนสักครั้งในชีวิต ถ้าจบมาราธอน จะได้ความรู้สึกหนึ่งที่ติดตัวไปคือความรู้สึกว่า เราอยากจะทำอะไร เราก็จะทำได้" เป็นคำพูดของ คุณมานิต อุดมคุณธรรม ประธานกรรมการบริษัท อีลิเชี่ยน ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เจ้าของโครงการ สวอนเลค เรสซิเด้นซ์ เขาใหญ่
.
.
ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร เทียบได้กับการเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หากขึ้นไปทางเหนือก็ไปจนถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี หากลงมาด้านใต้ ผ่านมาทางถนนบรมราชชนนี ก็จะไปถึงพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยที่กำลังจะตัดกับถนนเพชรเกษม จังหวัดนครปฐม
.
.
เรียกได้ว่าเป็นระยะทาง วิ่งข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว
.
.
ไม่เคยมีความคิดมาก่อนในหัวเลยว่าจะมาวิ่งมาราธอน อาจเป็นเพราะตั้งแต่วัยรุ่นก็ไม่ชอบกีฬาวิ่งอยู่แล้ว รู้สึกไม่สนุก ไม่ตื่นเต้น ไม่ได้แข่งขัน ไม่เหมือนกับการเล่นกีฬาชนิดอื่นๆ
.
.
แต่สุดท้าย จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมก็ออกมาวิ่ง ออกมาทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่ชอบ แต่ก็เป็นการวิ่งออกกำลังกายทั่วไป 2-5 กิโลเมตร
.
.
จนกระทั่งวันนึง มีโอกาสได้รับข้อคิดจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ในขณะที่กำลังพยายามทำงานชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งให้สำเร็จ ท่านแนะนำว่า "ถ้าอยากทำงานนี้ให้สำเร็จ ให้ลองมาวิ่งมาราธอน"
.
.
ในใจตอนนั้นคิดว่า "บ้าไปแล้ว" แค่เวลาในแต่ละวันยังทำงานนี้ไม่สำเร็จเลย แล้วจะให้ออกไปวิ่งมาราธอน !!!
.
.
แล้วผมก็เป็นคนบ้าจริงๆ เพราะเลือกที่จะลองสวมรองเท้า ออกวิ่ง และเกิดเป้าหมายที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะทำ นั่นคือ มาราธอน !!!
.
.
สุดท้าย งานสำเร็จก่อนที่จะได้ไปมาราธอน
.
.
ถึงแม้ว่างานที่ทำสำเร็จจะไม่เกี่ยวข้องกับการวิ่งโดยตรงก็ตาม แต่การออกมาวิ่ง มันบ่มเพาะอะไรหลายอย่างให้กับร่างกายและที่สำคัญคือ “ใจ”
.
.
จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การวิ่งก็มีส่วนช่วยให้การทำงานสำเร็จลุล่วงไปได้
.
.
เพราะการวิ่งที่ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ไม่ใช่การวิ่งออกกำลังกายโดยปกติทั่วไป 3กิโล 5กิโล หรือ10กิโลเมตร
.
.
หลายคนเคยวิ่งผ่านถึงระยะ Half Marathon 21 กิโลเมตร แต่...การวิ่งมาราธอน ก็ไม่ใช่ความรู้สึกของการวิ่ง Half แล้วคูณ2
.
.
มาราธอน เป็นการวิ่งที่ต้องโฟกัสอยู่กับร่างกาย ความคิดและจิตใจของตัวเองนานหลายชั่วโมง
.
.
การจะไปวิ่งมาราธอนได้ ต้องเกิดจากการบังคับตัวเอง ให้มีวินัย ฝึกซ้อม ต่อเนื่อง เอาชนะกายและใจตัวเอง เอาชนะข้ออ้าง ข้อจำกัดมากมายในแต่ละวัน ที่คอยวนเวียนเข้ามาทำให้เราไม่สวมรองเท้า ออกก้าววิ่ง
.
.
และแน่นอนว่า การบังคับตัวเองนี้ ไม่ใช่แค่วันหรือสองวัน ระยะเวลาแต่ละคนอาจมากน้อยต่างกันไป บางคนอาจเข้มงวดมีวินัยในการฝึกซ้อม มีพื้นฐานทางร่างกายที่ดีใช้เวลาไม่ถึงปี แต่ก็มีหลายคนที่ใช้เวลาเป็นปี หรือ 2 ปี หรือมากกว่านั้น
.
.
42.195 มันคือเป้าหมายใหญ่ แต่ในทุกๆสัปดาห์ก็จะมีเป้าหมายย่อยที่ต้องทำให้สำเร็จ พัฒนาไปทีละขั้นๆ
.
.
อดทน มีวินัย ฝึกฝน บังคับตัวเอง ให้ผ่าน 5กิโลให้สำเร็จ 10กิโลสำเร็จ 15 กิโล 20, 25 ไปเรื่อยๆ
.
.
บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จเล็กๆ สะสมเรื่อยๆ ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
.
.
เป็นการเติบโตไปพร้อมกันทั้งร่างกายและจิตใจ
.
.
ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญของการทำงานในทุกๆงาน ตั้งเป้าหมายปลายทาง วางแผนขั้นตอนย่อยๆ ทำให้สำเร็จไปทีละขั้น จนถึงจุดหมาย
.
.
จะว่าไปแล้วการวิ่งมาราธอนมันไม่ใช่การวิ่งเพียงแค่ระยะ 42.195 กิโลเมตร แต่มันรวมระยะทั้งหมดที่เราวิ่งฝึกซ้อมก่อนที่จะไปวิ่งมาราธอนเข้าไปด้วย
.
.
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า "การวิ่งมาราธอน จะเปลี่ยนชีวิตคน"

การวิ่ง 5-10กิโลเมตร จะเปลี่ยนให้คุณกลายเป็นคนที่แข็งแรง
การวิ่ง Half Marathon 21กิโลเมตร จะเปลี่ยนให้คุณเป็นนักกีฬา
การวิ่งมาราธอน 42.195กิโลเมตร จะเปลี่ยนให้คุณกลายเป็นนักสู้
.
.
นักสู้ที่ได้รับชัยชนะที่สำคัญที่สุด นั่นคือ… ชนะใจตัวเอง

#เพราะการวิ่งคือการพักผ่อน
#พ่อบ้านรันเนอร์

Facebook : www.facebook.com/PorBaanRunner/
IG : daddyrunning